วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Avocent Universal Management Gateway

เป็นการรวมเอาเทคโนโลยีบริหารจัดการพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล (Datacenter Infrastructure Management : DCIM) มาไว้ในอุปกรณ์ตัวเดียว เช่น การควบคุมและบริหารจัดการ (KVM, Serial Console, Service Processor) เป็นต้น

Avocent Universal Management Gateway เรียกโดยย่อว่า (UMG) จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นประกอบไปด้วย (UMG2000, UMG4000, UMG6000) โดยแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันที่ความสามารถและคุณสมบัติ ฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์



Benefits

Rack Server และ Blade Server สามารถควบคุมและจัดการได้ โดยผ่านช่องทางของ Service Processor หรือ Management Port (Multi-Device Support) ได้แก่ IPMI 1.5, IPMI 2.0, iLo, iLo2, RSA, DRAC, ALOM, ILOM, IRMC
  • Specification กำหนดสิทธิ์เป็น Policy ให้กับ User ต่างๆ และเพิ่มระดับ Security โดยทำการตรวจสอบก่อนให้การ Access เข้าใช้งาน
  • Log สามารถเก็บ event log การ Access ของ User ต่างๆ ได้
  • Save network interface ทำให้ประหยัด Network interface เมื่อใช้ร่วมกับ Blade server โดยการใช้สาย UTP เพียง 1เส้นโดยสามารถบริหารจัดการ Blade bay ทั้งหมดใน Chassis

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

Avocent Advanced Console Server

Cyclade ACS เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยควบคุมการ Access เข้าอุปกรณ์ Network ที่มี Serial Console ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสามารถกำหนดระดับของ User ที่เข้ามา Access ได้ ว่าสามารถที่จะมองเห็นหรือ Access เข้าอุปกรณ์ใดได้บ้าง และสามารถเก็บ Log ของการเข้า Access ของ User ต่าง ๆ ไว้ สามารถเรียกค้นดูย้อนหลัง หรือส่งออกมาในรูปของ Excel เพื่อทำรายงานได้ 




Benefits


  • Minimize Downtime&Risk : ช่วยให้ท่านสามารถแก้ไขปัญหาอุปกรณ์ Hang ได้เร็วขึ้น ทำให้ลด Downtime ได้โดยไม่ต้องไปที่หน้าเครื่อง หรือประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าแรงที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไป Onsite ทำให้ ระบบ Network ของท่านมี Availability สูง ที่สำคัญมีระบบ Out-of-band ที่ทำให้ท่านสามารถแก้ไขปัญจากที่ทุกที่ทุกเวลา โดยสามารถเชื่อมต่อเข้ามาที่ Cyclade ACS ได้ด้วย modem, ISDN, GSM DCMA and GPRS โดยผ่าน PCMCIA Slot ที่อยู่หน้าเครื่อง
  • Create Securityมีระบบ Authentication ที่เป็นมาตรฐานระดับสูงในการตรวจสอบ User ก่อนเข้า Access และสามารถสร้าง Policy ระดับต่าง ๆ ให้กับ User ได้
  • Data Logging มี Log การใช้งานของ User ทุกคนที่ Access เข้ามาสามารถเรียกดูย้อนหลัง และที่สำคัญสามารถเก็บ Key Stroke ของ User ที่เข้ามา Set อุปกรณ์ได้ทุก ๆ Key ที่พิมพ์ (ไม่รวม Password)
  • Easy Cabling Cyclade ACS ใช้การเชื่อมต่อด้วยสาย UTP ไปหาอุปกรณ์ Network โดยจะมี Adaptor Converter ต่อได้กับอุป Network ทุกชนิด

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Avocent Managed Rack PDU : PM 1000-2000-3000

เป็นโซลูชันที่เข้ามาช่วยให้ผู้ดูแลระบบ Data Center สามารถบริหารการใช้ไฟของอุปกรณ์ทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซลูชันจะแยกเป็นสองส่วนคือส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ก็จะแบ่งเป็นสามรุ่นหลัก ๆ คือ PM1000, PM2000, PM 3000 โดยแต่ละรุ่นจะแตกต่างที่ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์การทำงาน ความสามารถโดยรวมของ PM มีดังต่อไปนี้

  • Switching สามารถที่จะทำการ Remote Switch On/Off อุปกรณ์ในแต่ละตัวได้ด้วยความสามารถในการควบคุมถึงระดับ Outlet
  • Monitoring สามารถวัดปริมาณการใช้กระแสไฟได้ในระดับ Company, Data Center, Row of Rack, Rack level, แต่ละ PDU และแต่ละ Outlet ทำให้ทราบปริมาณการใช้กระแสไฟโดยรวมในแต่ละระดับและสามารถคำนวณออกมาเป็นค่าใช้จ่ายได ้
  • Sensors มี Internal Sensor สาหรับตรวจจับอุณหภูมิและความชื้นภายใน PDU
  • Threshold Alert: สามารถตั้งค่า Threshold ได้ตามต้องการและแจ้งเตือนผ่าน E-Mail ไปให้ผู้ดูแลระบบได้



Note : เนื้อหาข้างต้นนี้ ไม่ใช่ฟีเจอร์การทำงานทั้งหมดของซอฟแวร์นะครับ เป็นแค่รายละเอียดการทำงานหลัก ๆ หากท่านใดสนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากลิ้งด้านล่างนีั คลิ๊ก

Avocent Data Center Planner

Data Center Planner คือ software ระดับ Enterprise ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการ Server Room และ Data Server ในระดับ Physical Infrastructure ให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้


  • Know สามารถประเมินสถานะของข้อมูลต่าง ๆ ใน Data Center ในด้านของ Power, Heat, Ventilation (การระบายอากาศ) และ Air Condition
  • Plan สามารถวางแผนในการบริหารงานในลักษณะ Virtual Layout Management ตั้งแต่ระดับของ Floor, Racks และ Devices ตลอดจนสร้าง schedule plane ที่สามารถติดตามว่า project ดาเนินงานตามเวลาที่วางแผนงานไว้หรือไม่
  • Manage สามารถจัดการเกี่ยวกับ Assets & Facilities ต่าง ๆ ในห้อง Data Center ที่เกี่ยวข้องกับงาน Operation ต่าง ๆ


ภาพตัวอย่าง หน้าต่างการใช้งานซอฟแวร์


Benefix

  • Enjoy unparalled visualization ด้วยการออกแบบให้มี interface แบบ graphic ที่สามารถแสดงผลเสมือนการติดตั้งจริง สามารถแสดงการเชื่อมต่อแบบ end-to-end ได้
  • Plan with confidence ด้วยฐานข้อมูลที่นำข้อมูลจากอุปกรณ์จริงมาใช้ และการใช้งานแบบ drag-and-drop ทำให้การวางแผนงานเป็นไปอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเห็นผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง เช่นกระแสไฟเกิน limit  feature นี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดตั้งจริงได้
  • Know your capacity ด้วยการคำนวนอัตโนมัติของ software ทำให้สามารถคาดการณ์ถึงผลกระทบต่อ rack capacities(space, power, cooling) และใน DCP solution นี้ช่วยในการสนันสนุนการตัดสินใจเพื่อบริหาร AssetภายในData Centerได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • Know your inventory ประหยัดเวลาในการสร้าง report ด้วยเทคในโลยีแบบ centralized ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของทรัพย์สินได้จากส่วนกลาง ทำให้การจัดการทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
  • Share critical data with other departments ด้วยคุณสมบัติของ APIs support ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่าง department ทำให้เพิ่ม SLA, ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน และช่วยในการตัดสินใจที่ถูกต้องแม่นยำ

Note : เนื้อหาข้างต้นนี้ ไม่ใช่ฟีเจอร์การทำงานทั้งหมดของซอฟแวร์นะครับ เป็นแค่รายละเอียดการทำงานหลัก ๆ หากท่านใดสนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากลิ้งด้านล่างนีั คลิ๊

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

Avocent DSView Management Software

เป็นซอฟแวร์ที่รวมทุกฟังก์ชันการจัดการศูนย์ข้อมูลไว้ในอินเตอร์เฟซเดียว DSView ™ 4 ซอฟต์แวร์สามารถบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลได้แบบ Centralization ช่วยให้บรหารจัดการระบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • Secured Server Management Solution
  • Secured Blade Server & Virtualization Management Solution
-  Blade Server Management
-  Virtualization Management
-  Service Processor Management
  • Secured Serial Console Management Solution
  • Secured Power Management Solution
  • Infrastructure Explorer Management Solution

เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ KVM, UMG ท่านสามารถ Remote Control เข้าไปใช้งานเครื่อง End User เพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงการเก็บข้อมูล (Log) การใช้งาน การเชื่อมต่ออุปกรณ์ และแสดงผลการใช้งานออกมาในรูปแบบรายงานได้


ภาพตัวอย่าง หน้าต่างการใช้งานซอฟแวร์

Note : เนื้อหาข้างต้นนี้ ไม่ใช่ฟีเจอร์การทำงานทั้งหมดของซอฟแวร์นะครับ เป็นแค่รายละเอียดการทำงานหลัก ๆ หากท่านใดสนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากลิ้งด้านล่างนีั คลิ๊ก

VMware ESXi

VMware ESXi หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า (VMware vSphere Hypervisor) เป็นไฮเปอร์ไวเซอร์ตัวใหม่ ที่มีความสามารถเทียบเท่า (VMware ESX) แต่ตัดเซอร์วิสคอนโซลส่วนที่เป็นลินุกซ์ทิ้งไป ทําให้ขนาดของไฮเปอร์ไวเซอร์ตัวนี้ใช้พื้นที่บนหน่วยความจําในการทํางานต่ำกว่า 32 เมกกะไบต์ส่วนของเซอร์วิสคอนโซลที่หายไปถูกแทนที่ด้วยชุด (Remote Command Line Interface : Remote CLI) คือย้ายการสั่งงานโดยตรงบนเซอร์วิสคอนโซล มาอยู่บนเครื่องไคลเอนต์ที่รีโมทเข้าไปแทน

VMware ESXi ถูกแบ่งออกเป็นสองรุ่นคือ
  • ESXi Embedded จะจําหน่ายมาพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์
  • ESXi Installable เป็นเวอร์ชันฟรี สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งเองได้ สำหรับตัวฟรีทางวีเอ็มแวร์จะปิดความสามารถสูง ๆ ไว้ เมื่อเราซื้อ (License) ก็สามารถนำ (License) นั้นมาใส่เพื่อเปิดความสามารถที่ทางวีเอ็มแวร์ได้ปิดกั้นไว้ได้เลย โดยไม่ต้องลบโปรแกรมทิ้ง

ในส่วนของการใช้งานต่าง ๆ ผมคงจะอธิบายได้ไม่หมด ซึ่งสามารถหาได้จาก "อากู๋" ผมขอพูดถึงเทคนิคสำคัญๆ ดังต่อไปนี้

  • การเชื่อมต่อ VMware ESXi ด้วย VMware Workstation
โปรแกรม VMware Workstation สามารถเชื่อมต่อกับ ESXi ได้แต่จะไม่สามารถบริหารจัดการได้เท่ากับ vSphere Client ที่ถูกออกแบบมาให้บริหารจัดการโดยเฉพาะนะครับ
1. เปิดโปรแกรม VMware Workstation คลิ๊ก File\Connect to Server

2. จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมาให้ใส่ IP Server, User name, Password ของ Host ESXi ที่ต้องการเชื่อมต่อการใช้งาน แล้วกด Connect

 3. จะปรากฏ Host ที่เราทำการเชื่อมต่อและรายละเอียด Guest ข้างในทั้งหมด

  • การเชื่อมต่อ VMware ESXi ด้วย vSphere Client
การเชื่อมต่อ (VMware ESXi) ด้วย (vSphere Client) นั้น (ESXi) กับ (vSphere Client) ต้องเป็นเวอร์ชันเดียวกันถึงจะเชื่อมต่อกันได้ หากเป็นคนละเวอร์ชัน เมื่อกดฟังก์ชันการเชื่อมต่อวีเอ็มแวร์จะฟ้องให้ดาวน์โหลด (vSphere Client) ใหม่ทันที ให้ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมให้เรียบร้อย
1. หลังจากติดตั้ง vSphere Client เสร็จให้ดับเบิ้ลคลิ๊กไอคอล vSphere Client

2. จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมาให้ใส่ IP Server, User name, Password ของ Host ESXi ที่ต้องการเชื่อมต่อการใช้งาน แล้วกด Login


3. จะปรากฏหน้าต่างการใช้งานขึ้นมาดังรูป

  • อัพโหลด Guest VMware Workstation ไปยัง VMware ESXi
การอัพโหลด Gust ไปยัง ESXi สิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุด ขนาดฮาร์ดดิสที่ถูงจองไว้ของ Guest ต้องห้ามเกินว่าขนาดฮาร์ดดิสของ ESXi ที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน เพราะถ้าขนาดฮาร์ดดิสของ Guest ที่จองไว้มีมากกว่า จะไม่สามารถอัพโหลดเข้าไปได้นะครับ
1. เปิดโปรแกรม VMware Workstation คลิ๊กขวา Guest ที่ต้องการอัพโหลดไปยัง ESXi เช่นตัวอย่างดังรูป Ubuntu\Manage\Upload

2. จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมาให้เลือก Host ที่ต้องการจะอัพโหลด Guest เข้าไป

3. จะปรากฏหน้าต่างระบุรายละเอียดของ Guest กดปุ่ม Finish หลังจากนั้นรอให้ VMware Workstation อัพโหลดไปยัง ESXi 

  • การดาวน์โหลด Guest VM จาก ESXi สำหรับการแบ็คอัพ โดยใช้ VMware Workstation
1. เปิดโปรแกรม VMware Workstation คลิ๊กขวา Guest ที่ต้องการดาวน์โหลดจาก ESXi เช่นตัวอย่างดังรูป ibm-director\Manage\Download

2. กำหนดชื่อ Guest และที่อยู่ไฟล์ที่จะดาวน์โหลดมา ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงอะไรก็กด Download

3. รอจนกว่า VMware Workstation ดาวน์โหลด Guest จาก ESXi เสร็จสิ้น


  • เปิด Guest VM อัตโนมัติ
เทคนิคสำคัญ เทคนิคหนึ่งสำหรับเซิฟเวอร์ ESXi คือการตั้งเปิด Guest อัตโนมัติ เอาไว้ใช้ในกรณีที่เซิฟเวอร์ดับอาจจะเกิดจากไฟตกหรือดับ แล้วทำการเปิดเซอร์เวอร์ด้วย Wake-On-Lan ต่อด้วยเปิด Guest ใน ESXi ต่อทำให้ผู้ดูแลระบบไม่จำเป็นต้องเดินไปเปิดเซอร์และ Guest ใน ESXi ที่หน้าเครื่อง
1. ทำการล็อกอินเชื่อมต่อ Host ESXi ผ่าน vSphere Client คลิ๊กที่ Configuration และ Virtual Machine Startup/Shutdown

2. ทำการเลือก Guest ที่ต้องการตั้งค่า Automatic Startup แล้วคลิ๊กปุ่ม Move Up ให้ไปอยู่ช่อง Automatic Startup

3. แสดง Guest ที่ตั้งค่าให้เป็น Automatic Startup

  • การอัพโหลดอิมเมจไฟล์สำหรับติดตั้งระบบปฏิบัติการ โดยใช้ vSphere Client
สำหรับท่านที่ต้องการ Install Operating System ที่เป็นไฟล์ .iso ท่านต้องนำไฟล์ .iso เข้าไปไว้ยังฮาร์ดดิสของ ESXi ก่อน ซึ่งจะมีวีธีดังต่อไปนี้
1. ทำการล็อกอินเชื่อมต่อ Host ESXi ผ่าน vSphere Client
    1.1 คลิ๊ก Summary
    1.2 คลิ๊กขวาที่ datastore เลือก Browse Datastore 

2. จะปรากฏหน้าต่าง Datastore ขึ้นมา คลิ๊กเลือก Upload File เลือกไฟล์ .iso ที่ต้องการอัพโหลดเข้ามายัง Datastore ของ ESXi

3. รอจนกว่า vSphere Client จะอัพโหลดไฟล์เสร็จสมบูรณ์

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

SOPHOS : Remote Ethernet Device

เป็นโซลูชันเกี่ยวกับการทำ (VPN : Virtual Private Network) มีหน้าที่เชื่อมเครือข่ายในแต่ละสาขาเข้าด้วยกัน โดยอาศัย (Internet) เป็นตัวกลาง มีการทํา (Tunneling) หรือการสร้างอุโมงค์เสมือนไว้รับส่งข้อมูล มีระบบเข้ารหัสป้องกันการลักลอบใช้ข้อมูล เหมาะสําหรับองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งต้องการความคล่องตัวในการติดต่อรับส่งข้อมูลระหว่างสาขา

ภาพด้านล้างเป็น (Network Diagram) การเชื่อมต่อเครื่อข่าย (VPN) ของ (SOPHOS) ระหว่างเครื่อข่ายสาขา (Boston) กับเครือข่ายสาขา (Sydney)



Remote Ethernet Device : RED

SOPHOS : RED เป็นการเชื่อมเครื่อข่ายในรูปแบบ (Black Box VPN) สนับสนุนการเข้ารหัสในหลายรูปแบบ เช่น (AES 256bit) เป็นต้น (Black Box VPN) ทํางานได้เร็วกว่า (Software VPN) เนื่องจากตัวโปรเซสเซอร์ที่ถูกออกแบบมาทําหน้าที่ดูแลการทํางานของ (VPN) เป็นการเฉพาะ โดยจะสร้างอุโมงค์ได้หลาย ๆ อุโมงค์ รวมทั้งการเข้ารหัสและการถอดรหัสได้อย่างรวดเร็ว โดยที่การคอนฟิกค่าต่าง ๆ จะไปทำที่ (SOPHOS : UTM) ง่ายสะดวกและรวดเร็ว



Benefix

จุดเด่นที่ของ (SOPHOS : RED) ที่มีมากกว่า (VPN) ทั่ว ๆ ไปอยู่ตรงที่ตัว (BOX VPN) มีขนาดเล็กง่ายต่อการติดตั้งไม่เปลืองพื้นที่ และยังมีพอร์ต (USB) ไว้สำหรับเสียบ 3G WiFi ในกรณีที่เน็ตเวิร์คลิ้งหลักล่ม ก็จะเปลี่ยนมาเชื่อมต่อ 3G WiFi แทน ซึ่งถ้าเทียบการเช่า  (Leased Line) แล้วก็ยังถูกกว่ามาก